Friday, February 5, 2010

ฮอนด้าชี้มอเตอร์ไซค์ปีนี้โตไม่หยุด

มั่นใจรถหัวฉีดมาแรง กินส่วนแบ่งเกินครึ่ง

ฮอนด้าชี้ตลาดมอเตอร์ไซค์ปี 53 ไปได้สวย หลังยอดขายเดือนธ.ค.ทะลัก 147,424 คัน โต 127% ขานรับความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้น ส่วนตลาดรวมทั้งปี 52 ทำยอดสูงเกินคาด 1,535,613 คัน ฮอนด้าขึ้นแท่นอันดับหนึ่งเหมือนเดิม กวาดเรียบ 1,014,118 คัน ครองส่วนแบ่ง 66% ชี้เทรนตลาดปีนี้รถหัวฉีดมาแรงแน่

นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากทางผู้บริโภคกลับมาใช้จ่ายอีกครั้ง โดยสะท้อนให้เห็นได้จากยอดขายเดือน ธ.ค. ที่มียอดสูงถึง 147,424

คัน ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนถึง 127%

"ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีเป็นต้นมา ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทยมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากการที่ภาครัฐสามารถรักษาดุลยภาพทาง เศรษฐกิจและการเมืองไว้ได้ จึงช่วยเรียกความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมา โดยตลาดรถจักรยานยนต์ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในช่วงต้นปี จึงกลับฟื้นสภาพขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้าย"นายธีระพัฒน์กล่าว

ทั้งนี้ ในเดือนธันวาคมปี 2552 ที่ผ่านมาตลาดโดยรวมมีการเติบโตเป็น 147,424 คัน สูงขึ้นกว่าปีก่อนถึง 127% ที่ได้ระดับ 116,024 คัน โดยฮอนด้าเองก็เติบโตสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้าถึง 136% จาก 72,683 คันเดือนธ.ค.ปี 51 เป็น 98,946 คันในเดือนธ.ค.ปี 52

ด้วยเหตุนี้เองจึงส่งผลให้ยอดขายรวมทุกยี่ห้อในปี 52 ปิดตัวเลขลงอย่างสวยงามที่ 1,535,613 คัน หรือเติบโตลดลงเพียง 10% จากปีก่อนหน้า

โดยนายธีระพัฒน์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางฮอนด้ายังคงครองแชมป์ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 21 ด้วยยอดจำหน่าย 1,014,118 คัน เทียบเท่าอัตราส่วนตลาด 66%

สำหรับตลาดรถประเภท AT ที่ฮอนด้าเพิ่งวางตลาดรุ่นใหม่ล่าสุดไป 2 รุ่นในช่วงหลังของปีทั้ง Honda Scoopy I & Honda PCX นั้น ปรากฏว่าในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ตลาดรวมรถ AT มีการเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 125% ที่ ยอดรวม 68,793 คัน ในจำนวนนี้เป็นยอดจำหน่ายฮอนด้าเอทีที่ 34,474 คันเทียบเท่าสัดส่วนตลาด 50% เป็นการครองสัดส่วนตลาดสูงสุดในรถประเภทเอทีติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยมี 2 รุ่นหลักยอดนิยมทั้งฮอนด้าคลิก ไอ ที่ 15,358 คัน และ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ที่ 15,085 คัน

ในด้านการผลักดันรถจักรยานยนต์ระบบหัวฉีดออกสู่ตลาดของฮอนด้าอย่างจริงจังตั้งแต่กลางปี 2551 ที่ผ่านมา ล่าสุดในช่วงปลายปี 2552 สัดส่วนตลาดรถแบบหัวฉีดได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเพียง 23% ในเดือนมกราคม มาเป็น 50% ในเดือนธันวาคม หรือโดยเฉลี่ยทั้งปี รถแบบหัวฉีดมีสัดส่วนตลาดที่ 43% ซึ่งฮอนด้าในฐานะผู้บุกเบิกเทคโนโลยีใหม่จึงคาดการณ์ความนิยมในรถแบบหัวฉีดในปี 2553 จะยิ่งเติบโตมากยิ่งขึ้น และมีสัดส่วนเกินกึ่งหนึ่งของตลาดอย่างแน่นอน

สำหรับรายงานตัวเลขตลาดรถจักรยานยนต์ทุกประเภทในเดือนธันวาคม มียอดจดทะเบียนรวมที่ 147,424 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์แบบครอบครัว 71,790 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 49% แบบ เอ.ที. 68,793 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 47% แบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 3,550 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 2% แบบสปอร์ต 1,069 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% และแบบออฟโรดรวมประเภทอื่นๆ 2,222 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 2%

ส่วนยอดจดทะเบียนรวมของทั้งปี 2552 อยู่ที่ 1,535,613 คัน เติบโตลดลง 10% จากปีที่ผ่านมา โดยรถจักรยานยนต์ประเภทครอบครัวครองความนิยมสูงสุดที่ 755,599 คันเทียบเท่าสัดส่วนตลาด 49% รถแบบ เอ.ที. จำนวน 715,801 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 47%, รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ตจำนวน 37,286 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 2%, รถแบบสปอร์ต 11,567 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 1% และแบบออฟโรดรวมทั้งรถประเภทอื่นๆ 15,360 คัน เทียเท่าสัดส่วนตลาด 1%

สำหรับอัตราครองตลาดในปี 2552 ของแต่ละผู้ผลิตมีดังนี้ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า 1,014,118 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 66%, ยามาฮ่า 428,774 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 28%, ซูซูกิ 63,026 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 4%, คาวาซากิ 14,801 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 1%, เจอาร์ดี 1,537 คัน, แพล็ตตินั่ม 1,059 คัน, ไทเกอร์ 1,143 คัน และอื่นๆ 11,155 คัน

เพิ่มเติม http://www.kaohoon.com

0 comments:

Post a Comment